
ถิ่นกำเนิดต้นโมก
ถิ่นกำเนิดของต้นโมกคือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบกระจายพันธุ์ตั้งแต่ประเทศพม่า เวียดนาม เขมร มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ในประเทศไทยพบมากทางภาคกลางและภาคเหนือ
ลักษณะต้นโมก

ต้นโมเป็นต้นไม้มงคลที่มีกลิ่นหอม บริสุทธิ์ ลำต้นสูงประมาณ 5-12 เมตร เปลือกลำต้นสีน้ำตาลเข้ม มีจุดสีขาวประทั่วต้น แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบลำต้นไม่เป็นระเบียบ ใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่ ออกเรียงกันเป็นคู่ตามก้านใบ ปลายใบแหลม โคนใบแหลม ขอบใบเรียบ เนื้อใบบางสีเขียว ขนาดใบกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อสั้นๆ อยู่ตามปลายกิ่ง ดอกมีกลีบดอก 5 กลีบ เรียงซ้อนกัน ดอกสีขาว มีกลิ่นหอม ดอกบานเต็มที่มีขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร ผลเป็นฝักคู่ ยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร เมล็ดจำนวนมาก
ประโยชน์ของต้นโมก

ต้นโมกเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากมีดอกสีขาวสวยและมีกลิ่นหอม นอกจากนี้ ต้นโมกยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย โดยรากของต้นโมกใช้รักษาโรคผิวหนัง เรื้อน คุดทะราด แก้พิษสัตว์กัดต่อย ส่วนใบของต้นโมกใช้ขับน้ำเหลือง
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นโมก

- ชื่อเรียก คำว่า “โมก” นั้นพ้องกับคำว่า “โมกข์” หรือ “โมกษ์” ซึ่งหมายถึงความหลุดพ้นจากกิเลสและทุกข์ทั้งปวง ซึ่งเป็นความหมายเดียวกับนิพพาน ดังนั้น คนไทยโบราณจึงเชื่อว่าการปลูกต้นโมกไว้ประจำบ้านจะช่วยนำพาความสุข ความเจริญ และความเป็นมงคลมาสู่สมาชิกในครอบครัว
- ดอกสีขาว ดอกของต้นโมกมีสีขาวบริสุทธิ์ ซึ่งคนไทยโบราณเชื่อว่าสีขาวเป็นสีแห่งความบริสุทธิ์ สะอาด ดังนั้น การปลูกต้นโมกไว้ประจำบ้านจึงช่วยเสริมสร้างจิตใจให้บริสุทธิ์ สะอาด และปราศจากกิเลส
- กลิ่นหอม ดอกของต้นโมกมีกลิ่นหอม ซึ่งคนไทยโบราณเชื่อว่ากลิ่นหอมจะช่วยคลายความเครียด ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และสบายใจ ดังนั้น การปลูกต้นโมกไว้ประจำบ้านจึงช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและน่าอยู่
การปลูกต้นโมก

หากต้องการปลูกต้นโมกเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ควรปลูกต้นโมกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศแห่งความมั่นคงและความปลอดภัย นอกจากนี้ ควรปลูกต้นโมกในวันวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันแห่งการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : treespecie